สว่านคือหนึ่งในอุปกรณ์เครื่องมือช่างพื้นฐานที่มีประโยชน์ในการใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์การทำงานช่างด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งในการใช้งานสว่านให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ขึ้นอยู่กับดอกสว่าน
ทำไมต้องเลือกประเภทของดอกสว่าน?
การเลือกประเภทของดอกสว่านในงานเจาะรูมีผลต่อการอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน ทั้งขนาดของอุปกรณ์ ความลึกของรูที่ต้องการเจาะ วัสดุที่จะถูกนำมาเจาะรู รวมถึงอายุการใช้งานด้วย เนื่องจากดอกสว่านถูกทำมาจากวัสดุแข็งหลากหลายชนิดซึ่งมีผลต่อความทนทาน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างของประเภทดอกสว่าน ว่าใช้งานต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณเลือกดอกสว่านได้ถูกต้องตามประเภทการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของดอกสว่านได้ 4 ประเภท ดังนี้
2. ดอกสว่านเจาะเหล็ก
เป็นดอกสว่านที่ใช้เจาะวัสดุเนื้อเเข็ง เหล็ก อลูมิเนียม หรือวัสดุเนื้ออ่อนได้ มีลักษณะเป็นเกลียวตัดตลอด ปลายดอกสว่านจะแหลมเพื่อใช้ในการจิกชิ้นงาน สามารถนำมาใช้เจาะชิ้นงานที่เป็นไม้หรือโลหะทั่วไป รวมถึงพลาสติกได้อีกด้วย นิยมใช้กับงานเหล็ก โลหะ หรือพลาสติกที่มีความหนาเพราะสามารถทนต่อความร้อนได้ดี โดยดอกสว่านเจาะเหล็กจะแบ่งตามชนิด ดังนี้
3. ดอกสว่านเจาะปูน
ดอกสว่านเจาะวัสดุที่มีความแข็งเช่นคอนกรีตอิฐและวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ มีลักษณะเป็นเกลียวบิด ปลายดอกจะเป็นเหล็กชุบแข็งเพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกจากการใช้งาน ทำให้สามารถเจาะได้อย่าง่าย และแม่นยำ งานบางอย่างใช้สว่านโรตารี่แบบมีสายหรือไร้สายมาตรฐาน แต่ออกแบบมาเพื่อใช้กับสว่านโรตารี่หรือสว่านค้อนสามารถช่วยให้ดอกสว่านคอนกรีตเจาะเข้าไปในงานก่ออิฐได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การตอกของเครื่องมือจะผลักปลายคาร์ไบด์เข้าไปในวัสดุในขณะที่การหมุนจะช่วยกำจัดเศษเล็กเศษน้อยไปตามร่องฟัน ดอกสว่านถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ใช้ในการเจาะปูนหรือคอนกรีตเท่านั้น
4. ดอกสว่านเจาะกระจก
เป็นประเภทของดอกสว่านที่มีความเฉพาะตัวพอสมควร เนื่องจากวัสดุอย่างกระเบื้องต้นต้องอาศัยหัวเจาะที่คม ด้วยความลื่นของเนื้อสัมผัส ลักษณะของปลายดอกจึงมีความคล้ายกับศรธนู หัวแหลม ช่วยให้การเจาะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทะลุได้ง่ายเป็นดอกสว่านชนิดพิเศษใช้ในการเจาะกระจกเท่านั้น เพราะกระจกมีความบอบบางกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ จึงต้องใช้ดอกสว่านที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง จึงจะสามารถเจาะกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเจาะรูได้อย่างรวดเร็ว